อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช เชียงราย
อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงรายบริเวณทางแยกที่จะไปอำเภอแม่จัน พ่อขุนเม็งรายเป็นกษัตริย์องค์ที่ 25 แห่งราชวงศ์ลวะ เป็นโอรสของพญาลาวเม็ง และพระนางเทพคำขยายหรือพระนางอั้วมิ่งจอมเมือง ประสูติเมื่อวันอาทิตย์ แรม 9 ค่ำ เดือนอ้าย ปีกุนพุทธศักราช 1782 และเสด็จสวรรคตที่เมืองเชียงใหม่ในปี พ.ศ.๑๘๕๔พ่อขุนเม็งรายได้สร้างเมืองเชียงรายขึ้นบนดอยทองจากรากฐานเดิมที่เคยเป็นเมืองมาก่อน เมื่อปี พ.ศ.๑๘๐๕ ทรงเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์เม็งรายและรวบรวมบ้านเล็กเมืองน้อยเข้าเป็นอาณาจักรล้านนาไทยจนเจริญรุ่งเรืองจนปัจจุบัน
กู่พระเจ้าเม็งราย ตั้งอยู่หน้าวัดงำเมือง บนดอยงำเมืองกู่นี้เป็นอนุสาวรีย์สำคัญแห่งหนึ่ง เพราะเป็นที่บรรจุอัฐิของพ่อขุนเม็งรายมหาราชตามประวัติกล่าวว่าพระเจ้าไชยสงคราม ราชโอรสพระเจ้าเม็งรายเมื่อได้มอบราชสมบัติให้พระเจ้าแสนภูราชโอรสให้ขึ้นครองนครเชียงใหม่แล้วพระองค์ได้นำอัฐิพระราชบิดามาประทับอยู่ที่เมืองเชียงราย และได้โปรดเกล้าฯสร้างกู่บรรจุอัฐิของพระราชบิดาไว้ ณ ดอยงำเมืองแห่งนี้
วัดพระสิงห์ อยู่ที่ถนนท่าหลวง ใกล้ศาลากลางจังหวัด เดิมเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์องค์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารลายคำวัดพระสิงห์ เชียงใหม่ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่าเจ้ามหาพรหมพระอนุชาของพระเจ้ากือนากษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ได้อัญเชิญพระพุทธสิงหิงค์มาจากเมืองกำแพงเพชร พระเจ้ากือนาได้โปรดฯ ให้ประดิษฐานไว้ ณ เมืองเชียงใหม่ต่อมาพระเจ้ามหาพรหมทูลขอยืมพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานไว้ที่เมืองเชียงรายเพื่อหล่อจำลองแต่เมื่อสิ้นบุญพระเจ้ากือนาและพระเจ้าแสนเมืองราชนัดดาของพระองค์ได้เสด็จขึ้นครองเมืองเชียงใหม่ เจ้ามหาพรหมคิดจะชิงราชสมบัติจึงยกกองทัพจากเชียงรายไปประชิดเมืองเชียงใหม่แต่เจ้าแสนเมืองก็สามารถป้องกันเมืองได้อีก ทั้งยกทัพตีทัพเจ้ามหาพรหมมาถึงเชียงรายและครั้งนี้เองที่ทรงอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์คืนกลับไปประดิษฐานอยู่ที่วัดพระสิงห์เชียงใหม่สืบมาวัดนี้นอกจากเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิงหิงค์แล้วยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองบนแผ่นศิลา สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราชนอกจากนั้นบานประตูยังออกแบบโดย คุณถวัลย์ ดัชนี บอกเรื่องราวเกี่ยวกับดิน น้ำ ลมไฟ และแกะสลักโดยฝีมือช่างชาวเชียงราย
วัดพระแก้ว อยู่ถนนไตรรัตน์เป็นวัดที่ค้นพบพระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรที่ประดิษฐานอยู่ ณวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่าเมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกนเป็นเจ้าเมืองครองเชียงใหม่นั้นฟ้าได้ผ่าเจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทองอยู่ภายในเจดีย์ต่อมารักกะเทาะออกจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวที่สร้างด้วยหยกคือพระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบันวัดพระแก้วเชียงรายเป็นที่ประดิษฐานพระหยกซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในวาระที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระชนมายุ ครบ 90 พรรษา
วัดพระธาตุดอยทอง ตั้งอยู่ถนนอาจอำนวย หลังศาลากลางจังหวัดบนดอยจอมทองริมฝั่งแม่น้ำกกตามตำนานเล่าว่าเป็นพระธาตุเก่าแก่ที่มีก่อนที่พ่อขุนเม็งรายจะทรงสร้างเมืองเชียงรายโดยเล่าว่าพระยาเรือนแก้วผู้ครองนครไชยนารายณ์ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1483 สันนิษฐานว่า เมื่อพ่อขุนเม็งรายทรงพบชัยภูมิที่สร้างเมืองเชียงรายจากดอยจอมทองนั้นคงจะมีการบูรณะองค์พระธาตุใหม่พร้อมๆ กับการสร้างเมืองเชียงราย
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯเชียงราย ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 8 กิโลเมตร บนเส้นทางเชียงราย-แม่จันเข้าไปทางด้านหลังสถาบันราชภัฏเชียงราย ภายในสวนมีทัศนียภาพสวยงาม บรรยากาศร่มรื่นมีหนองบัวที่กว้างถึง 223 ไร่ เป็นสถานที่น่าพักผ่อนหย่อนใจเพราะน้ำในหนองบัวใสเย็นและเต็มเปี่ยมตลอดปีบนพื้นที่รอบหนองบัวเป็นที่ตั้งของพลับพลา ศาลาสำหรับนั่งพักผ่อนและมีสวนปาล์มสวนไผ่อยู่บนที่ลาดเนินเขา
วนอุทยานน้ำตกขุนกรณ์ อยู่บนเทือกเขาดอยช้าง ตำบลแม่กรณ์ ห่างจากตัวเมืองตามทางหลวงหมายเลข 1211 ประมาณ18 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าไป 11 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1208 หรือไปตามทางหลวงหมายเลข 1 สายเชียงราย-พะเยา ประมาณ 15 กิโลเมตรจะมีป้ายแยกขวาไปอีก 17 กิโลเมตร ถึงที่ทำการวนอุทยานแล้วเดินเท้าไปยังตัวน้ำตกอีกประมาณ 30 นาที ระยะทาง 1200 เมตร น้ำตกขุนกรณ์เป็นน้ำตกสวยที่สูงที่สุดของจังหวัดเชียงราย ชาวบ้านเรียกว่า“น้ำตกตาดหมอก” มีความสูงถึง 70 เมตรสองข้างทางที่เดินเข้าสู่น้ำตกเป็นป่าเขาธรรมชาติร่มรื่น
หอวัฒนธรรมนิทัศน์อยู่ที่ศาลากลางหลังเดิมจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงโบราณวัตถุเอกสารข้อมูลสำคัญทางประวัติศาสตร์เรื่องราวความเป็นมาทั้งด้านวรรณกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดเชียงรายและพระราชกรณียกิจสมเด็จย่าที่ดอยตุงเปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. เก็บค่าเข้าชม เด็กนักเรียน นักศึกษา คนละ 5 บาท ผู้ใหญ่ 10 บาท
แม่น้ำกก เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงราย มีความยาวรวมทั้งสิ้น 130 กิโลเมตรนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือจากท่าเรือริมแม่น้ำจากตัวเมืองเพื่อท่องเที่ยวชมทัศนียภาพของแม่น้ำกกสองฟากฝั่งเป็นป่าเขาที่สวยงามตามธรรมชาตินอกจากนี้ยังสามารถแวะชมหมู่บ้านชาวเขาต่างๆ เช่น อีก้อ ลีซอ กะเหรี่ยงหรือจะแวะปางช้างเพื่อนั่งช้างเที่ยวป่ารอบบริเวณนั้นก็ได้ อัตราค่าเช่าเรือ 450 บาท สามารถนั่งได้ 8 คน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ติดต่อเช่าเรือได้ตั้งแต่เวลา06.00-16.00 น.
พิพิธภัณฑ์อูบคำตั้งอยู่เลขที่ 81/1 ถนนหน้าค่ายตำบลรอบเวียง ติดกับตลาดสดเด่นห้าเป็นศูนย์อนุรักษ์มรดกล้ำค่าของอาณาจักรล้านนาโบราณประกอบด้วยเครื่องใช้ในราชสำนักล้านนา เครื่องใช้ในราชสำนักคุ้มเจ้าแพร่เครื่องใช้ในราชสำนักคุ้มเจ้าเชียงใหม่ ผ้าโบราณอายุ 120 ปีเป็นซิ่นไหมคำจากราชสำนักมัณฑเลย์ และที่สำคัญไม่ควรพลาดชมคือบัลลังก์กษัตริย์เป็นทองอร่าม อายุกว่า 200 ปี แสดงถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตโดยมีอาจารย์จุลศักดิ์ สุริยไชย เป็นผู้รวบรวม ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา9.00-18.00 น. ค่าเช้าชมผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาทพิพิธภัณฑ์นี้เป็นความตั้งใจของผู้รวบรวมที่จะเก็บของมีค่าสมัยล้านนาที่ไม่ได้อยู่ในแผ่นดินไทยให้กลับมาอยู่ในผืนแผ่นดินไทยและเก็บไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาถึงความเป็นมาและความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรล้านนาในอดีต ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โทร. (053) 713349
ข้อมูลจาก: thai.tourismthailand.org